ตะลึงซากหมีขอ 21 ซาก ลิงกังอีกเพียบ รวบพรานกะเหรี่ยง ลักลอบล่าสัตว์ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค เผยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ระดมกำลังเสริมสมทบจับกุม สุดท้ายหนีไปได้ 2 ราย...

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2562 เวลา 13.15 น. นายพนัชกร โพธิบัณฑิต นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า ร่วมกันออกลาดตระเวนปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค

ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินลาดตระเวนมาถึงเหมืองเดวิด ซึ่งเป็นเหมืองร้างที่สิ้นสุดสัมปทานนานแล้ว ในท้องที่หมู่ที่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ห่างชายแดนไทย-พม่า ระยะ ประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตรวจพบร่องรอยการตัดใบไม้ลักษณะใหม่ จึงติดตามร่องรอย จนกระทั่งพบแคมป์พักแรมลักษณะเป็น เพิงพักมุงด้วยใบปาล์ม ลักษณะสดใหม่ จึงกระจายกำลังเข้าโอบล้อม พบชาย 3 คน โดยที่ 2 คนนอนอยู่ในเปล จึงเข้าปิดล้อมจับกุม สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดไว้ได้ 1 คน ส่วนอีกสองคนอาศัยความชำนาญเส้นทางในป่าวิ่งหลบหนีไปจากการสอบถามเบื้องต้น ทราบชื่อว่านาย ซาตู ไม่มีนามสกุล อายุ 26 ปี สัญชาติพม่า อาศัยอยู่ บ้านคอกเปาะ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรอบแคมป์ที่พัก ตรวจพบอาวุธปืน ได้แก่ ปืน COLT AR-15 (M4), M16A2 จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก และปืนแก็ป จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุน M16 จำนวน 38 นัด ลูกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 7 นัด นอกจากนี้ยังพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองรมควัน ได้แก่ ซากหมีขอรมควัน จำนวน 21 ซาก นำหนัก 3 กก. ซากลิงกังรมควัน จำนวน 24 ซาก น้ำหนัก 2 กก. พร้อมอุปกรณ์ยังชีพในป่า

สอบสวนเบื่องต้น นายซาตูให้การว่า เป็นชาวกะเหรี่ยง มากับเพื่อนอีก 2 คนซึ่งหลบหนีไปได้ โดยมากัน 2 วันแล้ว และเข้ามาล่าสัตว์ในประเทศไทยเพื่อนำไปเป็นอาหาร เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าติดชายแดน และเกรงเรื่องความปลอดภัย จึงประสานเฮลิคอปเตอร์ สำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ารับตัวผู้ต้องหาและชุดลาดตระเวน พร้อมจัดทำบันทึกนำตัวผู้กระทำความผิดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ต่อไป