“จ๊ะจ๋า พริมรตา” หวาน “จิ๊บ วสุ” ขอบคุณที่เปิดเผย ทำให้ตนมีค่า ฟุ้งเป็นผู้ชายหลายโมเมนต์ เป็นอีกโลกที่ไม่เคยเจอ มั่นใจไม่ได้หลง ไม่ใช่รักฉาบฉวย ย้ำต่อให้รักไปไม่รอด จะไม่ทำร้ายกันเหมือนที่อีกฝ่ายเคยเจอ 
       
       นับวันยิ่งทวีความหวานกันมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าอายุไม่เป็นอุปสรรคเลย สำหรับคู่ของนักแสดงสาว “จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม” กับนักร้องหนุ่มรุ่นใหญ่ “จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว” ที่ไม่ว่าจะเป็นภาพคู่หรือคลิปวิดีโอต่างๆ ก็ทำเอาคนโสดอิจฉากันเป็นแถว ซึ่งสาวจ๊ะจ๋าก็ยอมรับว่าหวานขึ้นตามระยะเวลา เพราะตอนนี้แฟนหนุ่มเป็นได้แทบทุกอย่างในชีวิตตน
       
        “จ๊ะจ๋ารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกตินะ เพราะคนเราคบหากัน มันก็จะมีโมเมนต์แบบนี้แหละเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่กำลังศึกษาเรียนรู้กัน ถ้าอยู่คนเดียวแล้วมาทำอะไรอย่างนี้สิแปลก หรือถ้าเราศึกษากับคนๆ นี้แล้วเราไม่มีโมเมนต์แบบนี้เลย มีแต่ทำงาน มีแต่ทะเลาะกัน อันนั้นไม่ดีแล้ว แต่นี่ถือว่าเป็นช่วงเวลาปกติ เป็นเรื่องปกติของคนที่กำลังเรียนรู้กันค่ะ”
       
        “ภาพแรกที่เคยมองพี่จิ๊บไว้กับตอนนี้ ไม่เหมือนกันเลยอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนไปเยอะมาก ตอนแรกมองว่าพี่เขาเป็นผู้ใหญ่ เป็นทางการ แต่ตอนนี้เหมือนเราเป็นเพื่อนกัน (ยิ้ม) บางครั้งรู้สึกเหมือนมีน้องชาย เหมือนมีลูก บางครั้งรู้สึกมีพ่อ บางครั้งรู้สึกมีเพื่อน บางครั้งรู้สึกมีศัตรูคู่อาฆาต (หัวเราะ) ถามว่าพี่เขาทำตัวเด็กลงให้เข้ากับเรามั้ยก็ไม่ใช่ค่ะ คือทุกคนมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ไม่ว่าจะคนยุคไหนก็ตาม แต่ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะปล่อยความเป็นเด็กให้ใครได้รับรู้มากกว่า”
       
       “จ๊ะจ๋าเองยังมองว่าเขาคือนักวิชาการ เป็นทูต เวลาถามอย่างหนึ่งจะตอบมาห้าอย่าง คือเขารู้เยอะมาก แต่พอมาอยู่ด้วยกันกลายเป็นเหมือนอีกโลกหนึ่งที่จ๊ะจ๋าได้ค้นหาเขามากขึ้น อย่างเช่นเขาชอบเลียนแบบคำพูดจ๊ะจ๋า (ยิ้ม) มีอยู่วันหนึ่งจ๊ะจ๋าบอกว่า พี่จิ๊บผมทรงนี้สวยมั้ย เขาบอกว่า เริ่ด (หัวเราะ)"
       
       ขอบคุณ “จิ๊บ วสุ” ให้เกียรติไม่หลบซ่อน ทำให้ตนรู้สึกมีค่า
        “คือด้วยภาพของเราที่ออกมาคนอาจจะมองว่าหวานกันสุดๆ คือต้องมองว่าเมื่อก่อนจ๊ะจ๋ามีความรักมันก็ยังเด็ก เข้าวงการหรือยังก็ไม่รู้ พอเข้าวงการจ๊ะจ๋าก็ไม่เคยมีข่าวเรื่องความรักเลย คือเราไม่ได้คบคนในวงการด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เลยไม่มีใครรู้ พี่จิ๊บเองที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้รู้สึกมั่นใจหรือเขารู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ ฉะนั้นการที่จะไม่เปิดมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่พอวันนี้เขาได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง และเขาเห็นถึงสิ่งที่ควรจะทำ และเขาเป็นคนบอกกับจ๊ะจ๋าเองว่าเขาบอกดีกว่า โดยที่จ๊ะจ๋าไม่ต้องบอกว่าพี่จิ๊บเมื่อไหร่จะเปิด อยู่ๆ เขาก็ทำของเขาเอง บอกเอง พูดเอง แนะนำจ๊ะจ๋ากับคนอื่นๆ เอง มันเหมือนเขาให้เกียรติเรา เขารู้ว่าเรามีค่า นี่คือสิ่งที่ดีที่เปิดเผย ไม่ปิดบังไม่หลบซ่อน มันเป็นการสกรีนว่าคนนี้ตั้งใจจริงใจ คนอื่นที่จะเข้ามามันทำอะไรไม่ได้ หนุ่มๆ จ๊ะจ๋าหายหมดเลยดูสิ (ยิ้ม)”
       
       รับเป็นคนโรแมนติก ชอบเซอร์ไพรส์ แต่ตนยังไม่คิดจะแต่งงานเร็วๆ นี้
        “เขาชอบมีเซอร์ไพรส์ ไม่ได้ซื้ออะไรแพงหรือจริงจังอะไรขนาดนั้น แต่รู้ว่าจ๊ะจ๋าชอบที่นี่ก็จะแอบพาไป ก็สนุกดีค่ะ (ยิ้ม) เขาเป็นหนุ่มโรแมนติกค่ะ เป็นคนขี้เล่น ช่างสังเกต แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้จ๊ะจ๋าประทับใจเขานะ (หัวเราะ) จุดที่ทำให้จ๊ะจ๋าประทับใจมากกว่านั้น คือความคลิกกันในการคุยภาษาเดียวกัน อย่างจ๊ะจ๋าสนใจเรื่องอะไร มันน่าแปลกใจที่เขาจะมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ และคุยกันได้ออกรส”
       
       “จ๊ะจ๋าชอบที่จะคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับเขาในหลายๆ เรื่อง และน่าดีใจมากที่เราคุยได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องที่เซ้นซิทีปมากๆ การศึกษา การเมือง ศาสนา ที่มีหลายคนบอกว่าถ้าเราสนิทกันเราไม่ควรจะคุยเรื่องนี้ เพราะจะทะเลาะกัน แต่กลายเป็นว่าเขาก็สนใจในเรื่องพวกนี้ แต่เรื่องที่เราไม่สนใจ มันก็น่าแปลกที่เขาก็ไม่ได้สนใจ”
       
       “แต่จ๊ะจ๋าไม่อยากให้มองว่านี่คือจุดของความรัก แต่อยากให้มองว่านี่คือจุดของเพื่อนกัน เพราะไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเปลี่ยนไปมากขึ้นหรือน้อยลง จ๊ะจ๋ายังเชื่อถึงการไม่คาดหวังในเรื่องของอนาคตมากไปกว่านี้ เพราะวันนี้ก็ยังเรียนรู้เขาอยู่ เรียนรู้ตัวเองอยู่ พอเวลามีใครถามเรื่องแต่งงาน บอกตรงๆ ว่ารู้สึกไปไม่เป็น เพราะจ๊ะจ๋ายังไม่ได้คิดถึงจุดๆ นั้น เขิน รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่เราในวันนี้”
       
       “แต่ถ้าถามถึงความคาดหวังของครอบครัว จ๊ะจ๋าว่าผู้หญิงสมัยนี้ไม่เหมือนผู้หญิงสมัยก่อน และที่บ้านจ๊ะจ๋าเองค่อนข้างเข้าใจ และเปิดกว้างว่าเราไม่จำเป็นต้องรีบแต่งงานในขณะที่เรายังอายุน้อย เพราะหลายๆ คนที่เห็นว่าแต่งงานตอนอายุน้อยแล้วหย่าหรือเลิก จ๊ะจ๋าว่าตรงนั้นมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากกว่า”
       
       “ที่บ้านจ๊ะจ๋าสอนเสมอว่าให้เราคิดให้ดี คิดให้รอบคอบ แล้วค่อยตัดสินใจ ถึงวันนั้นมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวัง เราจะไม่เสียใจ แต่ถ้าวันนี้เราตัดสินใจทำด้วยสถานการณ์ปัจจัยภายนอกบังคับ เช่นคนมาถามเรา หรือเราแต่งงานเพราะว่าอายุมากแล้ว 30 แล้ว ตรงนี้เป็นการตัดสินใจที่ไม่คิดให้รอบคอบ สิ่งที่จะวัดได้ว่าเราพร้อมหรือยัง ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่คือใจของจ๊ะจ๋าเอง ซึ่ง ณ วันนี้ยัง”
       
       ปัดคบเผื่อใจ แค่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขอเต็มที่ในทุกๆ วัน
       “อย่าเรียกว่าเผื่อใจดีกว่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นแปลว่าเราไม่เต็มที่กับเขา แต่ถามว่าจ๊ะจ๋าเข้าใจถึงอนาคตที่มันไม่แน่นอนมั้ย ใช่ค่ะ แต่จ๊ะจ๋าเต็มที่กับเขานะ เต็มที่ในทุกๆ วัน แต่ถ้าวันข้างหน้ามันจะทำให้เราไม่มีความสุข และเราต้องตัดสินใจที่จะเดินออกมาหรือเขาเดินออกไป เราต้องเข้าใจ วันนั้นมันสามารถจะเกิดขึ้นได้”
       
       มั่นใจรักแข็งแรง ยันไม่ได้หลง ไม่ใช่รักฉาบฉวย จะไม่ทำร้ายอีกฝ่ายเหมือนที่เคยโดนมา
       “เชื่อไหมว่าจ๊ะจ๋าคบเขามาหลายๆ เดือนเนี่ย ไปกินข้าวนอกบ้านกันไม่เกินสิบครั้ง ที่เหลือที่บ้านทั้งนั้นเลย ไม่บ้านเขาก็บ้านเรา ถ้าไปกินนอกบ้านสองคนเดี๋ยวนี้เหงานะ คือเรากินข้างทางง่ายๆ แต่เวลาไปห้างก็จะคิดถึงแม่ เขาก็โทร.หาเลย ให้คนขับรถพามาเลย ความรู้สึกของเรามันไม่ใช่หลง ไม่ใช่ความฉาบฉวย แต่เราเริ่มต้นจากความเข้าใจผิดที่เยอะมาก แล้วพอมารู้ว่าความเข้าใจผิดมันคืออะไร มันทำให้เราเห็นว่านอกจากข่าวที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ 10% ของเรื่องทั้งหมด อีก 90% ที่คนไม่รู้ พอวันนี้เราผ่านตรงนั้นมาได้ มันเหมือนเราค่อยๆ ปูพื้นให้มันแข็งแรง และ ณ วันนี้สำหรับจ๊ะจ๋ารู้สึกว่ามันแข็งแรงในส่วนของคนที่ศึกษาดูใจ”
       
       “แต่ถามว่ามันจะแข็งแรงขนาดที่จะเป็นครอบครัวเดียวกันมั้ย จ๊ะจ๋ายังตอบไม่ได้ แต่ความรู้สึกตอนนี้ถ้าเกิดว่าเราจะต้องแยกกันไป จ๊ะจ๋าจะได้เพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งคือพี่จิ๊บ พี่จิ๊บก็จะมีเพื่อนที่หวังดีกับเขามากคนหนึ่งก็คือจ๊ะจ๋า เราจะไม่ทำร้ายกันเหมือนอย่างที่เขาเคยโดนทำร้าย ถ้าไปกันไม่รอดจ๊ะจ๋าจะไม่ทำร้ายเขา ที่ผ่านมามันค่อนข้างเลวร้ายสำหรับเขานะ เลวร้ายมาก คือการมองจากคนๆ หนึ่ง ที่บอกว่าฉันถูกกระทำ บางทีมันมีความจริงอีกหลายอย่างมากที่เขาไม่รู้ว่าเขาได้ทำร้ายคนอื่น และวันที่เขาพูดออกมาจากมุมของเขา ผลเสียมันมากกว่านั้น” 
       
       “แต่จ๊ะจ๋าก็จะบอกเขาว่ามันมีเคสอย่างนี้ในชีวิตของเขาไม่ใช่แค่เคสเดียว และเคสนี้ถือเป็นเคสเล็กมาก มันมีอีกหลายคนแต่เขาไม่ทำ เพราะมันมีการเอื้อกันในส่วนของความรู้สึกที่ดี จ๊ะจ๋าก็จะบอกว่าถ้าเราจะต้องแยกกันไม่ว่าอะไรก็ตามเขาจะเป็นคนดีที่สุดที่เคยอยู่ในช่วงชีวิตของจ๊ะจ๋าเหมือนเดิม ไม่มีวันที่จะมาทำให้เสียชื่อเสียง เพราะมันคือเรื่องส่วนตัว”

ที่มา : manager.co.th